การย้อมสีไหมด้วยเมล็ดมะขามและเปลือกหุ้มเมล็ดมะขามเพื่อเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์
บทคัดย่อ
การย้อมสีเส้นไหมด้วยวัสดุธรรมชาติ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณและกาลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
ในปัจจุบัน แต่วัสดุธรรมชาติที่นามาใช้ย้อมกลับมีจานวนลดลง เพื่อศึกษาหาวัสดุที่มีอยู่ตามธรรมชาติมา
ใช้ย้อมเส้นไหม คณะผู้วิจัยจึงทาการศึกษาการย้อมสีเส้นไหมด้วยเมล็ดและเปลือกหุ้มเมล็ดมะขาม
ตลอดจนการนาไปประยุกต์ใช้ในการผลิตผ้าไหม วิธีการดาเนินงานวิจัย 1) สกัดน้าย้อมจากเมล็ดและ
เปลือกหุ้มเมล็ดมะขาม 2) ศึกษาผลของสารช่วยติดสี ได้แก่ ใบชงโค ใบมะขาม สารส้ม และโคลน ต่อ
คุณภาพการย้อมไหม และ 3) การนาไปประยุกต์ใช้ ผลการวิจัยพบว่า สกัดน้าย้อมจากเมล็ดมะขาม และ
เปลือกหุ้มเมล็ดมะขามโดยใช้อัตราส่วนเมล็ดมะขาม 1 กิโลกรัม ต่อน้าสะอาด 7 ลิตร ต้มสกัดเป็นเวลา
1 ชั่วโมง 30 นาที เมื่อนาไปย้อมเส้นไหมจะให้เฉดสีน้าตาลทองถึงเทาขึ้นอยู่กับสารช่วยติดสี เส้นไหมมี
ความแข็งแรง คงทนต่อการกดทับด้วยความร้อน คงทนต่อการขัดถูและความคงทนต่อเหงื่อในระดับ
คุณภาพค่อนข้างดีถึงค่อนข้างดีมากที่สุด (2/3-4/5) แต่ความคงทนต่อการตกสีมีคุณภาพต่ำ สารช่วยติด
สีที่ให้เส้นไหมที่มีคุณภาพความคงทนของสีโดยรวมดีที่สุด คือ สารส้มและโคลน สามารถนาไป
ประยุกต์ใช้ในการผลิตผ้าไหมได้ จุดเด่นของงานวิจัยนี้ คือ การนาเมล็ดมะขามซึ่งเป็นวัสดุจากธรรมชาติ
ที่เหลือทิ้งและมีอยู่เป็นจานวนมากในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ สามารถผลิตสินค้า
ดังกล่าววางขายในท้องตลาดและเพิ่มมูลค่าของผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อ
สีย้อม ผู้ย้อมและผู้สวมใส่ผ้าไหมมีความปลอดภัย